พัฒนาทักษะและศักยภาพ เพิ่มความมั่นใจ
เรียนได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่ Basic จนถึงขั้น
Advance สอนโดยคุณครูมืออาชีพ ส่งสอบ
หลักสูตร Royal Academy of Dance (RAD)
ร่วมขึ้นแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ปีละ 2 ครั้ง
เรียนได้ตั้งแต่ 3.6 ปีขึ้นไป
ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของชาวเกาหลี
โดยการใช้มือ เท้า และสติปัญญา
ช่วยเสริมสร้างสมาธิ และความแข็งแกร่ง
ของร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก
และมัดใหญ่ ฝึกความอดทน
และความมีระเบียบวินัย สร้างประสบการณ์ที่ดี
เข้าร่วมแข่งขันในหลายๆ แมตซ์
มีการสอบสายตั้งแต่ สายขาว จนถึง สายดำ
โดยอาจารย์มากประสบการณ์
เรียนได้ตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป
เลขที่ 2 ซอย ทวีวัฒนา 22
แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10170
เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 10:00-19:00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 09:00-18:00 น.
คุณครู (ตอง) พร้อมศิริ สุวรรณราช สอนวิชา 3D
น้องมีพัฒนาการในการคิดเป็นขั้นตอน เหตุและผล
รวมไปถึงมีไอเดียในการสร้าง ประดิษฐ์ของใช้ของเล่นใหม่ๆ
(ดรัณ) ด.ช. ดรัณ วิมลเฉลา
ดรัณมีทักษะการถ่ายทอดความคิดผ่านคำพูดได้อย่างชัดเจน กล้าแสดงออก คอยเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อน และครูอยู่เสมอ และมีการคิดสร้างสรรค์ด้วยตนเอง
คุณแม่ทิพย์รัตน์ สิทธิมนต์อำนวย
คุณครู (ลูกปลา) ลลิตา เป่าเลี้ยง สอนวิชาศิลปะ
น้องคินคิน มีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัดมีสมาธิ
ตั้งใจเรียนทุกครั้ง ปั้นได้ทุกรูปทรง เข้าใจการสื่อสารได้
อย่างชัดเจน ผลจากการมาเรียนที่สม่ำเสมอ
น้องเรียนตั้งแต่ยังไม่ 3 ขวบ เรียนก่อนเข้าโรงเรียน
เป็นระยะเวลาปีกว่า คุณแม่บอกว่าน้องอยากมาเรียนสนุกทุกครั้ง ที่มาเรียน หลังๆก็ชวนเพื่อนมาเรียนด้วยค่ะ
(คิน คิน) ด.ช.ภคิณ จงประสิทธิ์
น้องเรียนปั้นดินตั้งแต่สองขวบกว่า ตอนนี้สี่ขวบแล้ว
มีพัฒนาการดีขึ้นมากๆค่ะ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมือ
รู้จักการผสมสีต่างๆ มีจินตนาการว่าอยากจะปั้นอะไร
มีสมาธิตั้งใจเรียนมาก อยากไปเรียนทุกๆครั้งเลยค่ะ
คุณครูและพี่ๆก็น่ารักทุกคนดูแลดีมากๆค่ะ
คุณแม่รัชวรรณ จงประสิทธิ์
คุณครู (จูน) พัฒน์พร ชิตโสภณดิลก สอนวิชาดนตรี
มองอ่านตัวโน๊ต มากขึ้นคะ จำตัวโน๊ตที่นิ้ว ได้ดี
กดตามจังหวะได้ ขยับนิ้ว ร้องตัวโน๊ตได้ดีมากค่ะ
(ชัญญา) ด.ญ.ชัญญารัตน์ ฤทธิ์เรืองเดช
ดีขึ้นและน้องได้เรียนรู้จักตัวโน้ตมากขึ้น
คุณพ่อไชยวุฒิ ฤทธิ์เรืองเดช
คุณครู (ตุ๋ย) กิตตินันท์ พึ่งเพาะ สอนวิชา Robot
เรียนเข้าใจเนื้อหา อุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ และหน้าที่ใช้งาน ได้ถูกต้อง ผู้เรียนคิดวิธีการสร้างหุ่นยนต์และ ลงมือทำแก้โจทย์ปัญหา ในกิจกรรมเรียน ตามครูผู้สอน ได้อย่างถูกต้อง อาทิ ตัวอย่างผลงาน เช่นการสร้างหุ่นยนต์ซูโม่ต่อสู้ การสร้างหุ่นยนต์เดินตามเส้น การสร้างหุ่นยนต์หลบหลีกสิ่งกีดขวาง
(ต้นตาล) ด.ช.ทักษพล สุวรรณสายะ
น้องสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ดี
รวมถึงมีความคิด สร้างสรรค์ในการออกแบบการต่อตัวต่อให้สามารถทำตาม โจทย์ที่ครูกำหนดเอาไว้ได้ดี
คุณแม่ทักษอร สุวรรณสายะ
คือ ความสามารถในการควบคุม และแสดงออก
ซึ่งความคิด ความรู้สึก โดยใช้อวัยวะส่วนต่างๆ
ของร่างกาย รวมถึงความสามารถในการใช้มือประดิษฐ์
ความคล่องแคล่ว ความแข็งแรง ความรวดเร็ว
ความยืดหยุ่น ความประณีต และความไว
ทางประสาทสัมผัส
เหตุผลที่เด็กควรมีทักษะปัญญาด้านร่างกาย
เพราะ ทักษะด้านร่างกายช่วยให้เด็กทำกิจกรรมที่เน้น
การเคลื่อนไหว เช่น การวิ่ง เล่นบอล ได้อย่าง
คล่องแคล่ว สร้างความสมดุล และความแข็งแรง
สำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวัน
ลักษณะของเด็กที่มีทักษะปัญญาด้านร่างกาย
– สามารถใช้กล้ามเนื้อได้คล่องแคล่ว ทั้งกล้ามเนื้อ
มัดเล็กและมัดใหญ่
– ใช้อวัยวะของร่างกายสื่อสารและแสดงความคิด
ความรู้สึกได้ดี เช่น แสดงละคร
คือ ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น ทั้งด้านความรู้สึก
นึกคิด อารมณ์ และเจตนาที่ซ่อนอยู่ภายใน
มีความไวในการสังเกต สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง
สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม
สร้างมิตรภาพได้ง่าย เจรจาต่อรอง ลดความขัดแย้ง
สามารถจูงใจผู้อื่นได้ดี เป็นปัญญาด้านที่จำเป็น
ต้องมีอยู่ในทุกคน
เหตุผลที่เด็กควรมีทักษะปัญญาด้านมนุษย์สัมพันธ์
เพราะ การมีทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์เพื่อสร้างพื้นฐาน
ที่แข็งแรงในพูดคุยและสร้างความปฏิสัมพันธ์ที่ดี
กับผู้อื่นซึ่งมีผลต่อความเป็นอยู่ร่วมกันในสังคม
และการทำงานในทีม
ลักษณะของเด็กที่มีทักษะปัญญาด้านมนุษย์สัมพันธ์
– สามารถรับรู้อารมณ์ความคิด ความรู้สึกของ
บุคคลต่างๆ รอบตัวได้
– ปรับปฏิสัมพันธ์ให้เหมาะสมกับการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น
– ทำงานกลุ่มได้ดีมีความเป็นผู้นำ เป็นสมาชิกกลุ่มที่ดี
และ รับรู้บทบาทตนเองในแต่ละสถานการณ์
– แยกแยะความแตกต่างระหว่างบุคคลได้ดี
– เรียนรู้ได้ดีถ้ามีโอกาสได้ร่วมกับผู้อื่น หรือมีโอกาส
สัมภาษณ์ผู้อื่น
คือ ความสามารถในการรู้จัก ตระหนักรู้ในตนเอง
สามารถควบคุมการแสดงออกอย่างเหมาะสมตาม
กาลเทศะ และสถานการณ์ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเผชิญหน้า
เมื่อไหร่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อไหร่ต้องขอความช่วยเหลือ
มองภาพตนเองตามความเป็นจริง รู้ถึงจุดอ่อน
หรือข้อบกพร่องของตนเอง ในขณะเดียวกันก็รู้ว่า
ตนมีจุดแข็ง หรือความสามารถในเรื่องใด
เหตุผลที่เด็กควรมีทักษะปัญญาด้านความเข้าใจตนเอง
เพราะ การมีทักษะด้านความเข้าใจตนเองเพื่อพัฒนา
และเสริมสร้างบุคลิกภาพและสุขภาพจิตที่ดี
ซึ่งมีผลดีต่อการเติบโตและพัฒนาของเด็กๆ
ในด้านต่างๆ ช่วยให้เด็กมีการเติบโตและเรียนรู้
ไปในทิศทางที่ดีและมีความสุข
ลักษณะของเด็กที่มีทักษะปัญญาด้านความเข้าใจตนเอง
– รู้จักเข้าใจจุดดี จุดด้อยของตนเอง
– รู้จักตั้งจุดหมายของชีวิต ชอบค้นหาเกี่ยวกับตนเอง
– วางแผนการทำงานของตนเอง และหาแนวทาง
ในการพัฒนาตนเองให้เก่ง
– สามารถทำงานคนเดียวได้ และติดตามสิ่งที่ตนเอง
สนใจเป็นพิเศษ
คือ ความสามารถในการรู้จัก และเข้าใจธรรมชาติ
อย่างลึกซึ้ง เข้าใจกฎเกณฑ์ ปรากฏการณ์
และการรังสรรค์ต่างๆ ของธรรมชาติ มีความไว
ในการสังเกต เพื่อคาดการณ์ความเป็นไปของ
ธรรมชาติ มีความสามารถในการจัดจำแนก แยกแยะ
ประเภทของสิ่งมีชีวิต ทั้งพืชและสัตว์
เหตุผลที่เด็กควรมีทักษะปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา
เพราะ การมีทักษะด้านธรรมชาติวิทยามีผลเชิงบวก
ต่อการเรียนรู้และการสื่อสารในชีวิตประจำวันของเด็กๆ
มีความสำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการทางสติปัญญา
และอารมณ์ และ เข้าใจสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย
ในโลกที่เราอยู่ในปัจจุบัน
ลักษณะของเด็กที่มีทักษะปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา
– มักชอบอยู่กับธรรมชาติ หลงไหลในความงามของ ธรรมชาติ
– เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และปรากฏการณ์ธรรมชาติ
คือ ความสามารถในการรับรู้ทางสายตาได้ดี
สามารถมองเห็นพื้นที่ รูปทรง ระยะทาง และตำแหน่ง
อย่างสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน แล้วถ่ายทอดแสดงออก
อย่างกลมกลืน มีความไวต่อการรับรู้ในเรื่องทิศทาง
เหตุผลที่เด็กควรมีทักษะด้านมิติสัมพันธ์
เพราะ ทักษะทักษะด้านมิติสัมพันธ์มีบทบาท
ช่วยให้เด็กเคลื่อนไหวได้แม่นยำ ช่วยการกะขนาด
ตัวอักษรได้เหมาะสมกับเส้นบรรทัดและหน้ากระดาษ
ทำให้เขียนอยู่บนเส้นบรรทัด กะขนาดตัวอักษร
เว้นช่องไฟได้เหมาะสม
ลักษณะของเด็กที่มีทักษะด้านมิติสัมพันธ์
– สามารถวาดภาพในสมอง และ ออกแบบสิ่งต่างๆ ได้เหมาะสม
– กะระยะได้แม่นยำ รู้เรื่องทิศทาง
– เรียนรู้ได้ดีถ้าต้องใช้จินตนาการ ได้ใช้ความคิดอย่าง
อิสระหรือทำงานด้วยสีและภาพ
คือความสามารถในการคิดแบบมีเหตุและผล
การคิดคาดการณ์ และการคิดคำนวณทางคณิตศาสตร์
เหตุผลที่เด็กควรมีทักษะด้านภาษาตรรกะและคณิตศาสตร์
เพราะ ทักษะด้านตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์มีบทบาท
ช่วยให้เด็กเรียนรู้การวางแผน การจัดการเวลา
และการแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันอย่างมีระบบ
ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต
อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะของเด็กที่มีทักษะด้านภาษาตรรกะ และคณิตศาสตร์
– เป็นคนที่คิดเป็นระบบ มีเหตุผลในการคิด
– มีความสามารถในการใช้จำนวน เข้าใจความ
เป็นนามธรรมของจำนวน
– มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหา หาวิธีการแก้
ที่หลากหลาย เลือกการแก้ปัญหาที่ได้ผล
– มีความสามารถในการคิดสังเคราะห์ ประมวลผล
คือความสามารถในการใช้ภาษารูปแบบต่างๆ ตั้งแต่
ภาษาพื้นเมือง จนถึงภาษาอื่นๆด้วย สามารถรับรู้
เข้าใจภาษา และสามารถสื่อภาษาให้ผู้อื่น
เข้าใจได้ตามที่ต้องการ
เหตุผลที่เด็กควรมีทักษะด้านภาษา
เพราะ ทักษะด้านภาษามีบทบาทสำคัญต่อการสื่อสาร
การเรียนรู้ การพัฒนาสมรรถนะ และการปรับตัวกับ
สังคมในชีวิตประจำวันและการทำงานอย่างมี
ประสิทธิภาพ
ลักษณะของเด็กที่มีทักษะด้านภาษา
– สามารถจับใจความได้ดี จากการฟังสิ่งต่างๆ
– สามารถถ่ายทอดความคิดทางคำพูดได้ชัดเจน
– สื่อสารได้ชัดเจนตรงประเด็น
– สามารถอ่านหนังสือต่างๆ ได้ถูกต้อง
เข้าใจความหมาย จับใจความได้ดี
– เขียนถ่ายทอดความรู้สึก ความรู้
ข้อมูลได้ถูกต้องชัดเจน
คือ ความสามารถในการซึมซับ และเข้าถึงสุนทรียะ
ทางดนตรี ทั้งการได้ยิน การรับรู้ การจดจำ
และการแต่งเพลง สามารถจดจำจังหวะ ทำนอง
และโครงสร้างทางดนตรีได้ดี และถ่ายทอดออกมา
โดยการฮัมเพลง เคาะจังหวะ เล่นดนตรี และร้องเพลง
เหตุผลที่เด็กควรมีทักษะปัญญาด้านดนตรี
เพราะ ทักษะด้านดนตรีช่วยให้เด็ก พัฒนาและ
สร้างสรรค์ในหลายด้านต่างๆ และ การฝึกดนตรี
ช่วยส่งเสริมทักษะการแสดงอารมณ์ โดยการนำเสนอ
เพลง ช่วยให้เด็กสามารถแสดงอารมณ์และความรู้สึก
ของตนเองได้ผ่านเสียงดนตรี
ลักษณะของเด็กที่มีทักษะปัญญาด้านดนตรี
– ชอบร้องเพลง ฟังเพลง ชอบเล่นดนตรี
และตอบสนองต่อเสียงเพลง
– แยกแยะ จำทำนองเพลง เรียนรู้จักหวะดนตรีได้เร็ว
– เรียนรู้จังหวะ เสียง และดนตรีได้ดี
– รู้จักโครงสร้างของดนตรี โครงสร้างในการฟังเพลง